สุขภาพ สิ่งแวดล้อม

ทางรอดภาคอุตสาหกรรมไทย : ต้องปฏิรูปพลังงานสะอาด ดึงดูดการลงทุนให้ทันท่วงที

ทางรอดภาคอุตสาหกรรมไทย : ต้องปฏิรูปพลังงานสะอาด ดึงดูดการลงทุนให้ทันท่วงที เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 08:30 น. ถึง 13:30 น. ณ ห้องแพลตตินั่มชั้น2 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย...

อ่านเพิ่มเติมDetails

วช. นำเสนอ “ธนาคารปูม้า” เข้าชิงรางวัลเลิศรัฐ สำนักงาน ก.พ.ร. พร้อมสร้างการบริหารแบบมีส่วนร่วมและความยั่งยืนให้ชุมชน “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย”

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ลงพื้นที่ โครงการขยายผลธนาคารปูม้าเพื่อ “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย” ณ ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าและประมงชายฝั่งบ้านในถุ้ง...

อ่านเพิ่มเติมDetails

จังหวัดแพร่ จัดงาน “Phrae Trade Fair 2025” ครั้งที่ 3 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

จังหวัดแพร่ มีผลิตภัณฑ์เด่นที่สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน ได้แก่ ผลผลิตทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ เกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผลิตภัณฑ์จากไม้สัก ผ้าทอ ผ้าหม้อห้อม สุรากลั่นชุมชน ฯลฯ ซึ่งได้รับ ผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ส่งผลให้ช่องทางการตลาดและยอดการจำหน่ายลดลง เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน เสริมสร้าง...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ททท.โคราชเปิดบ้านต้อนรับสื่อเวียดนาม ดัน “โคราชเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตร-สุขภาพ” สู่เวทีโลก

นครราชสีมา – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16–20 กรกฎาคม 2568 ตามโครงการ “VJA-TJA Media Exchange Program 2025” ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านสื่อมวลชนระหว่างสมาคมนักข่าวเวียดนาม (VJA) และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย...

อ่านเพิ่มเติมDetails

วช. จับมือ กทม. สสส. สภาลมหายใจกรุงเทพฯ และ มก. ร่วมตอบคำถาม “ฝุ่นกรุงเทพฯ มาจากไหน” ภายใต้กิจกรรม “นักสืบฝุ่น The series”

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร,สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.),สภาลมหายใจกรุงเทพมหานคร และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดกิจกรรม “นักสืบฝุ่น The series สงครามฝุ่นเมือง” ครั้งที่...

อ่านเพิ่มเติมDetails

“สุดาวรรณ” รมว.อว. ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 5,000 ต้น เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 ดันงานวิจัยกล้าไม้เชื้อเห็ดไมคอร์ไรซา สร้างอาชีพ สร้างรายได้สู่ชุมชน

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหา วชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. ย้ำบทบาทกำกับดูแลความปลอดภัยบนเวทีระดับชาติ พร้อมรองรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาตรฐานปลอดภัยขนาดเล็ก

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รรท. เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยภายหลังร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ความก้าวหน้าด้านกฎหมายและมาตรฐานต่างๆ เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยี SMR ในประเทศไทย“ บนเวทีสัมมนาระดับชาติ “A Global Dialogue on...

อ่านเพิ่มเติมDetails

วช. ลงนาม MOU ผนึกกำลัง ภาคีเครือข่าย จ.เชียงราย และ จ.พะเยา ดันเป้าหมาย “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” ด้วยวิจัยและนวัตกรรม

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ร่วมจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กิจกรรม “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ (ววน.) โดย...

อ่านเพิ่มเติมDetails

วช. ลงพื้นที่ภาคเหนือ ติดตามความก้าวหน้าโครงการแผนมุ่งเป้า ววน. “ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5“ ณ อ.เทิง จ.เชียงราย

วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการนี้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (ผอ.วช.) พร้อมด้วยคณะผู้ทรงคุณวุฒิจาก (วช.) นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง ตำบลศรีดอนไชย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย...

อ่านเพิ่มเติมDetails

“วุฒิสภาลงใต้ ลุยสุราษฎร์ฯ หนุนท่องเที่ยวปลอดภัย – จี้เร่งยกระดับท่าเรือสู่มาตรฐานสากล”

วุฒิสภาบินลงใต้ ลุยสุราษฎร์ฯ ตรวจเข้มมาตรการปลอดภัยนักท่องเที่ยว – เร่งยกระดับท่าเรือสู่มาตรฐานสากล เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 คณะอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา นำโดย พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ประธาน คณะอนุกรรมาธิการฯ พร้อมสมาชิกวุฒิสภา และคณะที่ปรึกษา ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยว ณ...

อ่านเพิ่มเติมDetails
Page 1 of 2 1 2
  • Trending
  • Comments
  • Latest
มทร.ธัญบุรี ผนึกพันธมิตรตั้ง “AI Center for SME” ปักหมุดศูนย์กลางนวัตกรรม หนุนผู้ประกอบการไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 เดินทางมาที่ค่ายสุรนารี เพื่อมารับสิ่งของบริจาค ให้กับทหารชายแดน ภาค 2
ทส. จัดงานการจัดการองค์ความรู้ “KM Day 2025” ภายใต้แนวคิด Go Together for the Better Life ส่งเสริมการจัดการความรู้ภายในองค์กร

Recent News

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว