กองทัพ ความมั่นคง

คอนโดหรูกลายเป็นรังยา! ตำรวจดส. บุกทลายเครือข่ายไนจีเรีย–สาวไทย ยึดโคเคนพร้อมทรัพย์สิน 4 แสน

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส., พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ และ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส. ชุดปราบปรามยาเสพติด กก.ดส. นำโดย พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. ร่วมมือ ตำรวจสากล (INTERPOL) พัฒนาศักยภาพบุคลากรไทย เพื่อความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รรท.เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า (ปส.อว.) ร่วมกับองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (ICPO/INTERPOL) หรือตำรวจสากลเดินหน้าพัฒนาศักยภาพบุคลากรไทยด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ผ่านโครงการ National Capability Assessment and Training...

อ่านเพิ่มเติมDetails

สภ.บางบัวทอง บช.ภ.1 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ยาบ้า 3,200,00 เม็ด

วันศุกร์ที่ 29 ส.ค.2568 เวลา 15.30 น. ณ บริเวณหน้าอาคารอเนกประสงค์ บช.ภ.1 : พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี,พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พร้อมคณะฯ...

อ่านเพิ่มเติมDetails

กรมศุลกากร ร่วมแถลงข่าวเปิดปฏิบัติการล่าขบวนการลักลอบค้าโคเคน ชาวเวียดนาม

กรมศุลกากรร่วม AITF เปิดปฏิบัติการล่าขบวนการลักลอบค้าโคเคน พบพัสดุเร่งด่วนขาเข้าระหว่างประเทศ ภายในเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน (Cocaine) น้ำหนัก 3 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทจึงขยายผลต่อ โดยนำส่งพัสดุไปยังที่อยู่ปลายทาง พบชาวไทยและชาวเวียดนามเป็นผู้รับ จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมดำเนินคดีต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 27...

อ่านเพิ่มเติมDetails

เบื้องหลังเก้าอี้สีกากี: เกมอำนาจ ผลงาน และจุดยืนเพื่อความยุติธรรม

การเลื่อนประชุม ก.ตร. รอบล่าสุด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สะท้อน สมรภูมิอำนาจและสายสัมพันธ์ในองค์กรตำรวจ หลังมี นายพล 4 นาย ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธาน ก.ตร. ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ได้แก่•พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร.•พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.•พล.ต.ต.รุ่งโรจน์...

อ่านเพิ่มเติมDetails

”พลโทชนินทร์“ นำทีมกอ.รมน. ลงพื้นที่บุรีรัมย์ คุมเข้มชายแดนไทย–กัมพูชา ลุยปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

วันที่ 27 สิงหาคม 2568 พล.ท.ชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการที่ 3 กอ.รมน. (ศปป.3) พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา หลังรัฐบาลสั่งเร่งปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้เห็นผลภายใน 3 เดือน การลงพื้นที่ครั้งนี้มีการเน้นย้ำมาตรการสำคัญ ทั้งการบูรณาการกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง...

อ่านเพิ่มเติมDetails

10 วันเดือด! ล่า-ยึด-จับ กระหน่ำทั่วไทยสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดยุทธการ “พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี” ระดมกวาดล้างอาชญากรรม 10 วัน จับผู้ต้องหากว่า 1 หมื่นราย ยึดอาวุธปืนกว่า 6 พันกระบอก เครื่องกระสุน-ระเบิดอีกเพี๊ยบ

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วยผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว...

อ่านเพิ่มเติมDetails

“4ส15” สถาบันพระปกเกล้า ลุยปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส 4 วันเต็ม เปิดมุมมองสันติภาพชายแดนใต้ สร้างสัมพันธ์–แบ่งปันน้ำใจ เพื่อสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 15 (4ส15) ลงพื้นที่ศึกษาดูงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 14–17 สิงหาคม 2568 ครอบคลุมจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นำโดย นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า พร้อมคณะกรรมการและคณาจารย์หลักสูตร กิจกรรมตลอด 4 วัน...

อ่านเพิ่มเติมDetails

เสวนา “สมรภูมิข่าวสารในวิกฤติความขัดแย้งไทย-กัมพูชา” เน้นย้ำบทบาทสื่อเพื่อสันติภาพ

เมื่อวันที่ 20 สค.68 ที่ โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น จตุจักร กทม. สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้จัดกิจกรรมราชดำเนินเสวนา หัวข้อ “สมรภูมิข่าวสารในวิกฤติความขัดแย้งไทย-กัมพูชา” โดยมีวิทยากรผู้บรรยาย ประกอบด้วย ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ดร.สังกมา สารวัตร...

อ่านเพิ่มเติมDetails

“4ส15” สถาบันพระปกเกล้า ลุยปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส 4 วันเต็ม เปิดมุมมองสันติภาพชายแดนใต้ สร้างสัมพันธ์–แบ่งปันน้ำใจ เพื่อสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 15 (4ส15) ลงพื้นที่ศึกษาดูงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 14–17 สิงหาคม 2568 ครอบคลุมจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นำโดย นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า พร้อมคณะกรรมการและคณาจารย์หลักสูตร กิจกรรมตลอด 4 วัน...

อ่านเพิ่มเติมDetails
Page 1 of 3 1 2 3
  • Trending
  • Comments
  • Latest
มทร.ธัญบุรี ผนึกพันธมิตรตั้ง “AI Center for SME” ปักหมุดศูนย์กลางนวัตกรรม หนุนผู้ประกอบการไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 เดินทางมาที่ค่ายสุรนารี เพื่อมารับสิ่งของบริจาค ให้กับทหารชายแดน ภาค 2
ทส. จัดงานการจัดการองค์ความรู้ “KM Day 2025” ภายใต้แนวคิด Go Together for the Better Life ส่งเสริมการจัดการความรู้ภายในองค์กร

Recent News

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว