การเกษตร

กษ. โชว์บทบาทภาคเกษตรไทย ในเวทีเอเปค 2025 ชู นวัตกรรม-AI หัวใจสำคัญขับเคลื่อนความมั่นคงอาหาร เสริมศักยภาพเกษตรกร

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอรรถกร ศิริลัทธยากร) เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ประจำปี 2568 (APEC 2025 Food Security Ministerial Meeting) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม...

อ่านเพิ่มเติมDetails

วช. จัดถกปัญหา “การส่งออกทุเรียนไทย” หนุนเกษตรกรปรับตัวสู้ Climate Change สร้างเครือข่ายนักวิจัย–ผู้ประกอบการ เสริมศักยภาพสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลไม้ จัดเสวนา “การส่งออกทุเรียนไทย : การปรับตัวของเกษตรกรไทยภายใต้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง” โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ...

อ่านเพิ่มเติมDetails

อว. FAIR 2025 เสวนาฟรี “การส่งออกทุเรียนไทย” เปิดเวทีปรับตัวเกษตรกรรับมือโลกร้อน

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ขอเชิญร่วมงาน "อว. FAIR 2025: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND" พร้อมเสวนาในหัวข้อ “การส่งออกทุเรียนไทย : การปรับตัวของเกษตรกรไทยภายใต้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง” ในวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลา...

อ่านเพิ่มเติมDetails

สศก. เคาะตัวเลข GDP เกษตรไตรมาส 2 น้ำดี-อากาศหนุน ดันผลผลิตพืชสำคัญเพิ่ม ส่งผล GDP เกษตรพุ่ง 5.5%

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ปี 2568 (เมษายน-มิถุนายน) ขยายตัวถึงร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ต่อเนื่องมาถึงช่วงต้นปี 2568 ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำตามธรรมชาติมีเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง ประกอบกับสภาพอากาศโดยทั่วไปเอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของพืชผล...

อ่านเพิ่มเติมDetails

งานแสดงและจำหน่ายสินค้า “ROADSHOW OTOP MAEKLONG 2025” ตามโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาด OTOP (ตลาดนัดชุมชน OTOP สมุทรสงคราม) ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 “กิจกรรมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ของ จ.สมุทรสงคราม” ครั้งที่ 2

วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม 2568 ณ บริเวณลานกิจกรรมชั้น1 หน้าโลตัสศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : จังหวัดสมุทรสงคราม โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดตัวงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “ROADSHOW OTOP MAEKLONG 2025”ตามโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาด OTOP (ตลาดนัดชุมชน OTOP...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ไทยรับมือภาษีทรัมป์! เกษตรฯ ชู 3 หลักการปกป้องเกษตรกร พร้อมรักษาขีดความสามารถทางการค้า

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายประจำ) เปิดเผยถึงผลการเจรจาภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยที่อัตราร้อยละ...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ชวน ชิม ช๊อป ในงาน “Green Local Market ตลาดสินค้าเกษตรดี วิถีชุมชน” ณ ศูนย์การค้าเจเจมอลล์ กรุงเทพฯ

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย จังหวัดอุทัยธานี, พิจิตร, กำแพงเพชร, นครสวรรค์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตร เกษตรปลอดภัย สินค้า GCG และสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และการเจรจาจับคู่ธุรกิจการค้า (Business Matching) ในรูปแบบ Online และ...

อ่านเพิ่มเติมDetails

จังหวัดแพร่ จัดงาน “Phrae Trade Fair 2025” ครั้งที่ 3 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

จังหวัดแพร่ มีผลิตภัณฑ์เด่นที่สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน ได้แก่ ผลผลิตทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ เกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผลิตภัณฑ์จากไม้สัก ผ้าทอ ผ้าหม้อห้อม สุรากลั่นชุมชน ฯลฯ ซึ่งได้รับ ผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ส่งผลให้ช่องทางการตลาดและยอดการจำหน่ายลดลง เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน เสริมสร้าง...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ททท.โคราชเปิดบ้านต้อนรับสื่อเวียดนาม ดัน “โคราชเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตร-สุขภาพ” สู่เวทีโลก

นครราชสีมา – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16–20 กรกฎาคม 2568 ตามโครงการ “VJA-TJA Media Exchange Program 2025” ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านสื่อมวลชนระหว่างสมาคมนักข่าวเวียดนาม (VJA) และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย...

อ่านเพิ่มเติมDetails

สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม “AgriDataProv” ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล

นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง "ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data: สู่จังหวัดยุคดิจิทัล" ณ ห้องประชุม Nada Ballroom โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น นาดา ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร...

อ่านเพิ่มเติมDetails
Page 1 of 2 1 2
  • Trending
  • Comments
  • Latest
มทร.ธัญบุรี ผนึกพันธมิตรตั้ง “AI Center for SME” ปักหมุดศูนย์กลางนวัตกรรม หนุนผู้ประกอบการไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 เดินทางมาที่ค่ายสุรนารี เพื่อมารับสิ่งของบริจาค ให้กับทหารชายแดน ภาค 2
ทส. จัดงานการจัดการองค์ความรู้ “KM Day 2025” ภายใต้แนวคิด Go Together for the Better Life ส่งเสริมการจัดการความรู้ภายในองค์กร

Recent News

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว