กระบวนการยุติธรรม

Justice System

สืบ น.6 แกะรอยโจรลักจยย.ตามใบสั่ง ใช้ตู้ทึบขนลงใต้ – รวบคู่ผัวเมียกลางถนน ยึดของกลาง 5 คัน

กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 6 ผนึกกำลังฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก แกะรอยกล้องวงจรปิดไล่ล่าแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายใหญ่ หลังพบว่ามีการก่อเหตุแบบ “ตามใบสั่ง” ลักรถรุ่นยอดนิยมจากพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนใช้รถกระบะตู้ทึบขนลงขายภาคใต้และตามแนวชายแดน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ...

อ่านเพิ่มเติมDetails

แท็กซี่อุกอาจ! พุ่งชน XMAX และรถพ่วงข้าง 2 คันกลางแยกลำสาลี ก่อนซิ่งหนี – ผู้เสียหายโร่แจ้ง สน.หัวหมาก ล่าตัวเอาผิด

มื่อเวลา 05.36 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2568 เกิดเหตุสุดอุกอาจกลางกรุงเทพฯ ในพื้นที่รับผิดชอบของ สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก รถแท็กซี่สีเขียว–เหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับด้วยความเร็วและความประมาท พุ่งชนรถจักรยานยนต์ Yamaha XMAX หมายเลขทะเบียน 3ขน 8034 กรุงเทพมหานคร...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ตำรวจนครบาลทลายรัง “ไฮโซลูกนัท”! ยึดปืนอื้อ-โคเคนเพียบ ชักปืนบังคับสาวเสพยา

วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานสืบ สั่งการให้ พ.ต.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. พร้อมกำลังตำรวจ กก.ดส. นำหมายค้นบุกบ้านหรูย่านพัฒนาการ หลังได้รับแจ้งจากหญิงสาวว่าถูก “นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย”...

อ่านเพิ่มเติมDetails

“สุรเดช” ยื่นมือช่วย “ลุงจันทร์” วัย 73 สู้คดีไฟไหม้คอกวัว – ชี้พิรุธอัยการไม่ส่งผลพิสูจน์!

อุบลราชธานี – 6 สิงหาคม 2568เรื่องราวของ นายจันทร์ ถวิลบุญ ชายชราวัย 73 ปี ผู้พิการทางจิตใจ กำลังกลายเป็นกระแสสะเทือนกระบวนการยุติธรรม หลังศาลจังหวัดเดชอุดมมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ให้จำเลยมีความผิดฐานเป็นต้นเหตุไฟไหม้คอกวัว โดยลงโทษปรับ 30,000 บาท...

อ่านเพิ่มเติมDetails

เปิดเวที “ยธส.16–ยธก.20“ เสนอแก้ยาเสพติดต้องถึงราก กระทรวงยุติธรรมเตรียมดันใช้งานจริง

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มวิทยฐานะให้แก่ผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับสูง (ยธส.16) และระดับกลาง (ยธก.20) ประจำปีงบประมาณ 2568 รวม 118 คน โดยมี...

อ่านเพิ่มเติมDetails

สว.จำลอง อนันตสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา และโฆษกคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน “โครงการยุทธศาสตร์ชาติด้านกฏหมายกับองค์กรวิชาชีพกฏหมาย

วันที่ 2 ส.ค.2568 ที่ ห้องประชุมไมด้า บอลรูม โรงแรมไมด้า ดอนเมือง แอร์พอร์ต : สมาคมธรรมาภิบาล,มูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต,สมาคมนักข่าวช่างภาพโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์,สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย,สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ จัด "โครงการยุทธศาสตร์ชาติด้านกฏหมายกับองค์กรวิชาชีพกฏหมาย" โดยมี สว.จำลอง อนันตสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม...

อ่านเพิ่มเติมDetails

บช.น. เชิดชู 43 นักสืบมืออาชีพ มอบรางวัลอันทรงเกียรติ แห่งความทุ่มเท

วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ณ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจสายงานสืบสวนดีเด่น ประจำปี 2568 รวมทั้งสิ้น 43 นาย เพื่อยกย่องความมุ่งมั่น ทุ่มเท และผลงานที่เป็นเลิศด้านการสืบสวน...

อ่านเพิ่มเติมDetails

จับแล้ว! โจรปลอมเป็นช่างเน็ต ตระเวนลักตู้ชุมสายกลางกรุง ก่อเหตุ 29 เคส โรงพยาบาล-หน่วยงานรัฐเสียหายอ่วมกว่า 10 ล้าน

กรุงเทพฯ – ตำรวจนครบาลระดมกำลังล่าตัว 2 โจรแสบ ปลอมตัวเป็นช่างซ่อมบำรุง ตระเวนลักตู้สัญญาณอินเทอร์เน็ต-สายไฟเบอร์ออปติกจากหน่วยงานรัฐและโรงพยาบาล ก่อเหตุแล้วอย่างน้อย 29 ครั้งในพื้นที่ 21 สน. รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท สุดท้ายจนมุมคาร้านรับซื้อของเก่า ย่านจอมทอง เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ดส.บุกจับหนุ่มค้าอาวุธสงครามออนไลน์ ยึดปืน-กระสุนอื้อกลางบ้านเช่า

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 4 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส. และรอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล, พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์, พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง...

อ่านเพิ่มเติมDetails

ปูพรม 3 จุด! บก.สส.ภ.1 จับหนุ่มค้า “เซ็กซ์ทอย” ออนไลน์ ยึดของกลางกว่า 7 แสนบาท

นนทบุรี – วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ และ พ.ต.ต.เกริกเกียรติ ฮวดกุล สว.วิเคราะห์ข่าวฯ สนธิกำลังเข้าตรวจค้น 3...

อ่านเพิ่มเติมDetails
Page 2 of 4 1 2 3 4
  • Trending
  • Comments
  • Latest
มทร.ธัญบุรี ผนึกพันธมิตรตั้ง “AI Center for SME” ปักหมุดศูนย์กลางนวัตกรรม หนุนผู้ประกอบการไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 เดินทางมาที่ค่ายสุรนารี เพื่อมารับสิ่งของบริจาค ให้กับทหารชายแดน ภาค 2
ทส. จัดงานการจัดการองค์ความรู้ “KM Day 2025” ภายใต้แนวคิด Go Together for the Better Life ส่งเสริมการจัดการความรู้ภายในองค์กร

Recent News

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว