การเกษตร

วช. ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดตามความก้าวหน้าโครงการแผนมุ่งเป้า ววน. นำโมเดลชุมชนนวัตกรเข้มแข็งรับมืออุทกภัย ณ ต.แม่ข้าวต้ม จ.เชียงราย

ันที่ 15 กรกฎาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (ผอ.วช.) พร้อมด้วยคณะผู้ทรงคุณวุฒิจาก (วช.) นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย...

อ่านเพิ่มเติมDetails

วช. ลงนาม MOU ผนึกกำลัง ภาคีเครือข่าย จ.เชียงราย และ จ.พะเยา ดันเป้าหมาย “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” ด้วยวิจัยและนวัตกรรม

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ร่วมจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กิจกรรม “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่ออากาศสะอาด น้ำมั่นคง” เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ (ววน.) โดย...

อ่านเพิ่มเติมDetails

สศก. ถอดบทเรียนปัญหาพื้นที่เพาะปลูกทับซ้อน เตรียมใช้ Machine Learning หนุนการจัดทำแผนที่เกษตรกรรม

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากที่ (สศก.) มีภารกิจในการจัดทำและบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศการเกษตร ที่ผ่านมา ศูนย์สารสนเทศการเกษตร ได้ดำเนินการจัดทำแผนที่แหล่งเพาะปลูกจากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมในพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลังโรงงาน สับปะรด ปาล์มน้ำมัน และยางพารา...

อ่านเพิ่มเติมDetails

กรมประมงร่วมประชุมจีน เดินหน้ายกระดับเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเอเชีย-แปซิฟิกอย่างยั่งยืน

กรมประมง…เข้าร่วมการประชุมยกระดับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 1-6 กรกฎาคม 2568 กรมประมงเข้าร่วมการประชุมระดับสูงว่าด้วยการพลิกโฉมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ครั้งที่ 3 (The 3rd High level Meeting on Aquaculture Transformation: HLM 3)...

อ่านเพิ่มเติมDetails

โก โฮลเซลล์ เปิดแคมเปญ “GO Food ส่งสุข” ซื้อผลไม้ 1 กก. เท่ากับ 1 บาท สมทบทุนอาหารกลางวันเด็ก

โก โฮลเซลล์ คิกออฟ “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” กระตุ้นบริโภคผลไม้ไทย ทุก 1 กก. เท่ากับ 1 บาท ส่งมอบอาหารกลางวันเด็กนักเรียน โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ...

อ่านเพิ่มเติมDetails
Page 2 of 2 1 2
  • Trending
  • Comments
  • Latest
มทร.ธัญบุรี ผนึกพันธมิตรตั้ง “AI Center for SME” ปักหมุดศูนย์กลางนวัตกรรม หนุนผู้ประกอบการไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 เดินทางมาที่ค่ายสุรนารี เพื่อมารับสิ่งของบริจาค ให้กับทหารชายแดน ภาค 2
ทส. จัดงานการจัดการองค์ความรู้ “KM Day 2025” ภายใต้แนวคิด Go Together for the Better Life ส่งเสริมการจัดการความรู้ภายในองค์กร

Recent News

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

“Mega Show-Bangkok 2026” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ย้ายสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัวงาน Kick-off อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ComAsia Limited จำกัด เปิดตัว“Mega Show-Bangkok 2026” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่องาน “Kick-off Ceremony for 2026 MEGA SHOW-Bangkok” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ซึ่งเป็นการนับถอยหลังสู่มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 กรกฎาคม 2569 โดยงานนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของไทยร่วมงาน อาทิ นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์  ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย และนายสุปรีย์ ทองเพชรประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “US Tax Wall: โอกาสของภาคธุรกิจไทย” พร้อมด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์  สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทยสมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ มร.ปีเตอร์ เชิง ผู้อำนวยการ บริษัท ComAsia Limited กล่าวถึงการจัดงานว่า “Mega Show ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปีที่ฮ่องกง และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก และเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าประเทศอื่น เราจึงตัดสินใจขยาย Mega Show มาจัดในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้าถือเป็นครั้งที่ 5 และเติบโตขึ้นจากผู้แสดงสินค้า400 รายในปีแรก สู่กว่า 1,000 ราย” Mega Show-Bangkok โดดเด่นด้วยการจัดแสดงสินค้าที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ของขวัญ ของชำร่วย ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียนเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ทำสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์ ฮาลาล ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก โดยงานที่ผ่านมา ในปี 2025 มีผู้เข้าชมกว่า 15,000 ราย โดยกว่า 6,000 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ ครอบคลุมผู้ซื้อทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ฮ่องกง รวมถึงยุโรปและอเมริกา สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านโรงแรม การขนส่ง และการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้าน E-commerce รวมถึงการ Business Matching เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ประกอบการไทยโดยตรง ตอกย้ำความเป็นเวที B2B และ B2C ที่ครบวงจร“Mega Show-Bangkok 2026 คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ จากกว่า 17 ประเทศ และดึงดูดผู้ซื้อมืออาชีพนับหมื่นรายจากทั่วโลก โดยมีหนึ่งวันพิเศษเปิดให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก” มร.ปีเตอร์ กล่าวปิดท้าย ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึงบทบาทของสถาบันว่า “Mega Show เป็นเวทีสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มไลฟ์สไตล์และสิ่งทอแฟชั่น ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว งานนี้จึงถือเป็นเวทีที่จะช่วยสร้างความร่วมมือและเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง”ปัจจุบันแนวโน้มการจัดแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงมีการเติบโต ทั้งในด้านสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Green Sustainable นวัตกรรมเทคโนโลยี และการขยายเครือข่ายซัพพลายเชนในระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัว